พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระผงหลวงปู่ทวด...
พระผงหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด ปี2534 พ่อท่านกล่ำ ถาวโร วัดศาลาบางปู
หลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
เขียนโดย คุณ สุวัฒน์ เหมอังกูร
พ่อท่านกล่ำ ถาวโร พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงญาณสมาบัติชั้นสูงและมีวิชาอาคมขลัง เป็นผู้ให้กำเนิดยันต์ราหูแปดทิศที่ทรงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ อันแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความแตกฉานในวิทยาการด้านไสยศาสตร์ จนสามารถคิดค้นการสร้างวัตถุมงคลที่มีพลังระดับสูงไว้ให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้บูชา และยังเป็นต้นแบบให้กับวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชที่มีความโด่งดังไปทั่วประเทศ ในทางโลกการจะได้รับการยกย่องให้เป็นศาสตราจารย์ จะต้องเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีใหม่ หรือการเขียนตำราวิชาการที่ยังไม่มีใครค้นคว้ามาก่อน พ่อท่านกล่ำจึงเปรียบเสมือนศาสตราจารย์ในทางโลก หรือปรมาจารย์ในเรื่องไสยเวทย์วิทยาคมในทางไสยศาสตร์
------------------------------------
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้ใหญ่ใจดีแห่งเมืองนครศรีธรรมราชได้อัญเชิญวัตถุมงคลทรงคุณค่าในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อันสูงยิ่ง ของพ่อท่านกล่ำ ถาวโร มาฝาก วัตถุมงคลที่ท่านนำมานั้น มีจำนวนมากมายหลายชิ้น เห็นแล้วถึงกับอึ้งในความใจดีมีเมตตาของท่าน ผมจึงขอกราบขอบพระคุณ โกจ๊อง โคตรเศรษฐี มา ณ โอกาสนี้
ที่มาของอภินันทนาการในครั้งนี้ เกิดจากการที่ผมได้ติดต่อโกจ๊อง เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำ เพื่อนำมาประกอบเรื่องราวของท่านที่ผมจะลงในเว็บราชันดำ ตามบทนำที่ผมลงให้ท่านอ่านข้างต้น การที่ผมจัดทำบทความเรื่องของพ่อท่านไม่ได้เกิดจากความคึกคะนอง แต่เกิดจากความศรัทธาในภูมิปัญญาของท่าน
โดยส่วนตัวแล้ว วัตถุมงคลที่สุดยอดในใจผมก็คือ องค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพ แต่ที่ผมสนใจและนำเรื่องของพ่อท่านกล่ำมาลงในเว็บราชันดำ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
1. พ่อท่านกล่ำ มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชทั้งรูปแบบและการปลุกเสก
2. ถึงแม้ว่า สุดยอดวัตถุมงคลในใจของผมคือ วัตถุมงคลที่ปลุกเสกโดยท่านพ่อจตุคามรามเทพ แต่วิสัยของคนที่ชอบในเรื่องของอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเห็นว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อ หลวงปู่องค์ไหนดี มีคำเล่าขานถึง ก็อดที่จะให้ความสนใจและเสาะหาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ผมมีความคิดว่า การมีวัตถุของเกจิอาจารย์หลายองค์ หลายรุ่น เปรียบเสมือนกับการที่เราเป็นช่างที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ หลากหลายไว้ใช้งาน ให้เหมาะกับแต่ละงาน เช่น มีสว่าน ไขควง สิ่ว กบ เลื่อย หลายขนาด สามารถใช้ได้เหมาะกับงานแต่ละอย่าง วัตถุมงคลก็เช่นเดียวกัน มีคุณสมบัติที่แตกต่างหลากหลายอานุภาพ
สิ่งที่ผมอยากกล่าวถึงคือเหตุผลในข้อ 1 เรื่องวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำได้ถูกนำมาเป็นแบบในการสร้างวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราช นั่นคือ ยันต์ราหูแปดทิศของพ่อท่านกล่ำ ที่ท่านเป็นผู้ออกแบบและสร้างขึ้นแจกในงานวันเกิดในปี 2526 รูปแบบของราหูแปดทิศ ได้นำมาเป็นแบบหลักในการสร้างผ้ายันต์ พระเนื้อผง และเหรียญ ของวัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยปรับเปลี่ยนรายละเอียดตรงกลางเป็นรูปแบบต่าง ๆ จุดสำคัญที่เป็นหลักในทางโหราศาสตร์คือ ราหูแปดทิศ ซึ่งกรณีนี้พ่อท่านกล่ำ จะต้องได้รับการยกย่องและให้เกียรติ ถึงแม้ว่าวัตถุมงคลที่ทำแล้วนำไปให้ท่านพ่อจตุคามรามเทพ ปลุกเสก จะมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ก็ควรจะบอกถึงที่มาของรูปแบบ ถ้าไม่บอกก็ควรจะข้ามไป แต่มีบางคนบอกกล่าวว่าคิดรูปแบบนี้ขึ้นเองเพื่อทำเป็นวัตถุมงคลให้ท่านพ่อปลุกเสก การโกงผลงานของผู้อื่นเป็นเรื่องน่าละอาย ไม่นับเป็นสัปปุรุษ จะเป็นได้ก็แค่โมฆะบุรุษ
การนำรูปแบบวัตถุมงคลต่าง ๆ มาสร้างวัตถุมงคลขึ้นใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มีการทำกันอยู่โดยทั่วไป ยันต์ อักขระ คาถา ที่ใช้ในวัตถุมงคลหลายรุ่นของหลักเมือง ฯ ก็ใช้แบบที่มีมาอยู่แล้ว รูปแบบราหูแปดทิศ ก็มีมาก่อน 2-3 ปี และมีหลักฐานว่าใครเป็นผู้คิดรูปแบบนี้ขึ้น ส่วนความศักดิ์สิทธิ์จะมากน้อยตามเคล็ดที่นำมาใช้นั้นขึ้นอยู่กับองค์ผู้ปลุกเสก

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 2
จากภาพเป็นวัตถุมงคลพ่อท่านกล่ำอีกส่วนหนึ่งที่โกจ๊องได้มอบให้ผม ผมขอนำเรื่องของพ่อท่านกล่ำบางตอนในเว็บราชันดำมาให้เพื่อน ๆ อ่านต่อ
คุณหมอสมสุข คงอุไร หรือที่คนในวงการเรียกท่านว่า อาหมอ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปกราบไหว้พระเกจิอาจารย์จำนวนมาก เพื่อแสวงหาอาจารย์ที่ทรงญาณสมาธิชั้นสูงและมีวิชาอาคมขลัง พระเกจิอาจารย์ที่ท่านได้ใกล้ชิดมากคือ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ภายหลังจากที่หลวงพ่อพรหมท่านมรณภาพ คุณหมอก็ได้ไปกราบไหว้พระเกจิอาจารย์อีกหลายองค์ หนึ่งในนั้นก็คือ พ่อท่านกล่ำ แห่งวัดศาลาบางปู คุณหมอมากราบไหว้พ่อท่านกล่ำหลายครั้งและได้บอกกับโกจ๊องว่า พ่อท่านกล่ำ มีความสามารถด้านวิชาอาคมเทียบเท่าหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และ หลวงปู่หล้า หรือครูบาหล้า วัดป่าตึง รวมกัน ซึ่ง ครูบาหล้ามีชื่อเสียงเล่าขานกันว่า ท่านมีตาทิพย์ คุณหมอบอกว่า เวลาพ่อท่านกล่ำปลุกเสก ท่านจะลืมตาปลุกเสกเหมือนครูบาหล้า ถ้าไม่เก่งจริง จะทำให้ตาบอดได้ อีกเรื่องหนึ่งที่คุณหมอบอกคือ พ่อท่านกล่ำ ตาท่านเป็นสีฟ้าใสดุจน้ำทะเล ตามที่ผู้เขียนทราบลักษณะเช่นนี้แสดงว่าท่านทรงญาณสมาธิชั้นสูง มีความแก่กล้าในสมาธิจิตและวิชาอาคม ซึ่งจะปรากฏในพระเกจิอาจารย์บางองค์
สำหรับนัยน์ตาสีฟ้านี้ เราจะสามารถเห็นได้ตอนที่ท่านกำหนดจิตหรือต้องการให้เราเห็นเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนเคยประสบกับพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งมาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนตั้งข้อสงสัย เมื่อได้ไปพบหลวงพ่อบางองค์ว่า ไม่เห็นตาท่านสีฟ้าตามที่เขาร่ำลือกัน ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือ ตาสีฟ้าและฟ้าอมเขียว ที่ว่านั้นต้องมีความใส ถ้าเป็นสีฟ้าอมเทาและขุ่น นั่นเป็นลักษณะของการเข้าสู่วัยชรา
จากการที่คุณหมอสมสุข คงอุไร มากราบไหว้พ่อท่านกล่ำปีละ 1-2 ครั้งทุกปี เป็นเครื่องแสดงอย่างหนึ่งว่า พ่อท่านเป็นพระเกจิที่มีความสามารถในเรื่องพลังจิตสูงและมีวิชาอาคมขลัง ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าคุณหมอท่านสามารถพิสูจน์ว่าพระเกจิองค์ใดเก่งหรือไม่ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาของท่านที่ได้เลือกไปสัมผัสกับพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ มานั้นเป็นที่ยอมรับว่าพระเกจิอาจารย์ดังกล่าวเก่งจริง
นอกจากนี้ คุณหมอยังได้นำผงที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จของหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค เป็นผงที่ลบโดยหลวงพ่อมามอบให้เป็นส่วนผสมในการสร้างพระผงของพ่อท่านกล่ำด้วย ซึ่งผงดังกล่าวตามที่ผู้เขียนทราบรายละเอียดมีประวัติต่อเนื่องมาคือ คุณหมอได้สอบถามหลวงพ่อพรหมตอนที่ท่านใกล้มรณภาพว่า เมื่อหลวงพ่อไม่อยู่แล้ว มีหลวงพ่อองค์ไหนที่น่าไปกราบไหว้ หลวงพ่อพรหมบอกว่า ให้ไปหาพระที่สร้างเหรียญมียันต์อิติปิโส 8 ทิศอยู่ด้านหลัง ภายหลังจากที่หลวงพ่อพรหมมรณภาพในวันที่ 30 มกราคม 2518 คุณหมอจึงสืบหาตามหาพระอาจารย์ตามที่หลวงพ่อพรหมท่านบอก จนกระทั่งมาพบเหรียญรุ่นแรกของครูบาชุ่ม วัดวังมุย จังหวัดลำพูน ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิชัย และเป็นที่ศรัทธายกย่องจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่า ท่านสามารถเข้านิโรธสมาบัติได้ทุกอิริยาบท คุณหมอจึงได้สร้างพระสมเด็จรุ่นปัจเจกธรรมถวายครูบาชุ่ม โดยผสมผงของหลวงพ่อพรหมไปด้วย ส่วนที่เหลือจึงนำมาผสมเนื้อพระให้ลูกศิษย์พ่อท่านกล่ำพืมพ์พระปิดตาเนื้อผงพิมพ์ลอยองค์ พิมพ์หลังเต่า และพระสังกัจจายน์ ผงดังกล่าวมีชื่อว่า ผง 5 มหาเมตตา
----------------------------------------------------
ขอมาคุยต่อครับ
กลับมาที่ยันต์ราหูครับ โกจ๊องบอกกับผมว่า ได้ถามพ่อท่านกล่ำว่า ทำไมพ่อท่านถึงทำราหูล่ะ ผมเห็นแล้วรู้สึกกลัว พ่อท่านกล่ำบอกว่าต่อไปเขาก็ใช้ราหูเพ จ๊องเอ๊ย ! ท่านพูดก่อนที่จะมีการสร้างหลักเมือง 2 – 3 ปี แสดงให้เห็นว่าท่านมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน
สำหรับวิชาราหูของพ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อท่านพุ่มวัดจันพอ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาราหูทางภาคใต้ ร่วมสมัยกับพระเกจิที่สร้างราหูทางภาคเหนือ คือ ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จังหวัดลำปาง ส่วนภาคกลางคือ ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม
รูปแบบของราหูครูบานันตา จะทำเป็นราหูอมจันทร์ และราหูอมพระอาทิตย์ หรือที่เรียกกันว่า จันทรประภา และ สุริยประภา ส่วนราหูของหลวงพ่อน้อย จะเป็นแบบราหูอมจันทร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งการสร้างทั้ง 2 รูปแบบนี้ เป็นการสร้างโดยใช้คติตามตำนานของอินเดียที่สืบทอดกันมานับพันปี แต่ทางภาคใต้ภายหลังจากที่พ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดวิชาราหูจากพ่อท่านพุ่ม เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ท่านจึงใช้ความสามารถในวิทยาการด้านไสยศาสตร์ระดับสูงผสมผสานเคล็ดวิชาราหูเข้ากับวิชาโหราศาสตร์ที่ใช้หลักว่า ราหูคือเงาของดาวเคราะห์ 8 ดวง โดยมีโลกเป็นศูนย์กลาง อาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่ทำให้เกิดเงา ดาวนพเคราะห์ที่เหลือจำนวน 8 ดวง ยังได้ตัดดาวพลูโตออก เพราะอยู่ห่างไกลโลกมากและมีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกได้จึงเหลือ 7 ดวง และนำดวงจันทร์เข้ามารวมด้วยเนื่องจากเป็นดาวที่ส่งอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกมากจึงรวมเป็น 8 ดวง ตามหลักวิชาของโหราศาสตร์ จึงทำให้ความหมายแห่งยันต์แบบนี้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของดวงชะตา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับราหูที่เราเห็นกันโดยทั่วไปตามรูปแบบในยุคก่อน ๆ ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นรูปแบบของยันต์ที่มีความสวยงามอลังการ
มีคนไทยในสหรัฐอเมริกา ได้นำผ้ายันต์พังพระกาฬ ไปติดที่ร้านขายอาหารของตน มีลูกค้าฝรั่งคนหนึ่งเห็นเข้า จึงถามว่า นี่คือรูปภาพอะไร เขาตอบไปว่า Thai amulet หรือเครื่องรางของขลังของไทย ฝรั่งคนนั้นพูดกับเขาว่า นี่ไม่ใช่เป็นแค่ amulet เท่านั้น แต่เป็น art ด้วย

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 3
ในภาพก็ยังเป็นวัตถุมงคลพ่อท่านกล่ำที่โกจ๊องนำมามอบให้อีกเช่นกันครับ
และขอนำบทความบางตอนมาให้ท่านที่สนใจอ่านต่อ
มีผู้ไปถามหลวงพ่อเนียม วัดบางไทร ลูกศิษย์พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ ว่าหลวงพ่อองค์ไหนที่เราควรไปกราบไหว้ หลวงพ่อเนียมท่านตอบว่า ก็พระครูวิสุทธิ ฯ ยังไง ซึ่งขณะนั้นท่านก็หมายถึง หลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
เมื่อพูดถึงการเอ่ยนามของท่านว่า พระครูวิสุทธิจารี ผู้เขียนจึงขอพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของสมณะศักดิ์นี้ เพราะเป็นชื่อที่มีความหมายยิ่ง เดิมชื่อนี้เป็นชื่อสมณะศักดิ์ของหลวงพ่อพุ่ม วัดจันพอ อาจารย์ของพ่อท่านกล่ำ เมื่อพ่อท่านพุ่มมรณภาพลงจึงตั้งพ่อท่านกล่ำขึ้นมาแทน การตั้งสมณะศักดิ์พระครูโดยใช้ชื่อว่าพระครูวิสุทธิจารี ไม่ใช่ตั้งได้โดยง่าย เพราะมีข้อกำหนดหลายประการคือ พระองค์นั้นต้องบวชตั้งแต่ก่อนอายุ 13 ปี และบวชอย่างต่อเนื่อง ต้องมีความรู้ในภาษาบาลีอย่างแตกฉาน สามารถแปลเป็นภาษาไทยได้อย่างสละสลวย ข้อสุดท้ายคือ ไม่เคยได้รับสมณะศักดิ์พระครูในชื่ออื่นมาก่อน ด้วยข้อกำหนดดังกล่าว เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ชื่อสมณะศักดิ์นี้จึงว่างเว้นไปนานหลายปีกว่าจะได้องค์ใหม่ขึ้นแทน และที่ผู้เขียนกล่าวว่ามีความหมายยิ่ง ต้องไปพิจารณาที่คำแปล
วิสุทธิ หมายความว่า บริสุทธิ์
จารี หมายความว่า ผู้ประพฤติ
แปลอย่างตรงไปตรงมาก็คือ ผู้ประพฤติที่บริสุทธิ์ เป็นการยกย่องและสื่อความหมายว่า ท่านมีวัตรปฏิบัติที่บริสุทธิ์ ทั้งในทางโลกและทางธรรม มีความเคร่งครัดในศีล ซึ่งการจะปฏิบัติเช่นนี้ได้ตั้งแต่เด็กตลอดจนสิ้นอายุขัย ต้องเป็นผู้ที่ละวางกิเลสได้มากจนถึงหมดสิ้นซึ่งกิเลส
ท่านเป็นบรรพชิตที่มีญาณสมาธิขั้นสูง มีพลังจิตเข้มขลัง แต่ประพฤติปฏิบัติตนอย่างเงียบ ๆ ไม่คุยโม้โอ้อวด นอบน้อมถ่อมตน สมดังคำที่เจ้าคุณนร ฯ วัดเทพศิรินทร์ จะบอกกับลูกศิษย์เสมอว่า ของจริงนิ่งเป็นใบ้ หรือดังคำกล่าวของยาขอบในเรื่องผู้ชนะสิบทิศว่า เปรียบเสมือนรวงข้าวในนาที่มีเนื้อข้าวอยู่เต็มในเมล็ด รวงจึงโน้มต่ำลง ส่วนรวงข้าวที่เมล็ดฝ่อจะชูตั้งขึ้น
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระที่มีความเมตตาสูง ช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยาก มีปัญหาในเรื่องการประกอบอาชีพ ท่านมีวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายเหมือนชาวบ้านทั่วไป โกจ๊องแนะนำท่านว่าให้เอาโทรทัศน์ขาวดำมาดูสักเครื่อง ท่านบอกว่าชาวบ้านที่ท่านไปบิณฑบาตยังไม่มีเลย ท่านจะมีได้อย่างไร
------------------------------------------------

ขอมาคุยต่อครับ
กลับมาที่เรื่องพระราหูอีกครั้งครับ สิ่งที่อยากให้ทุกท่านพิจารณาคือ พ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดวิชาราหูจากพ่อท่านพุ่ม พระอาจารย์ของท่านมาเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี ท่านก็ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลในรูปพระราหูเลย จนกระทั่งในปี พ.ศ.2526 ท่านจึงได้ทำผ้ายันต์เกี่ยวกับราหูที่ไม่ใช่รูปแบบเดิม แต่ท่านได้ใช้ความรู้ระดับสูงในวิชาไสยศาสตร์และโหราศาสตร์มาผสมผสานให้ทรงพลังความศักดิ์สิทธิ์ในรูปราหู 8 ทิศ และรูปแบบนี้ได้นำไปใช้เป็นหลักในวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชทุกรุ่น
เรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการสร้างหลักเมือง ที่ถูกจัดสรรโดยองค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพ ท่านต้องลงมาสร้างในขณะที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ พร้อม ตั้งแต่คนดำเนินการ ช่างฝีมือต่าง ๆ ผู้ที่มีความรอบรู้ในการสร้างวัตถุมงคล อย่างเช่น งานช่างก็มีอาจารย์มีชัย อาจารย์ราไว อาจารย์มนตรี อาจารย์เปี๊ยก ส่วนงานสร้างวัตถุมงคลซึ่งเป็นงานพิเศษเฉพาะไปอีกแบบหนึ่ง ก็ต้องไปเชิญท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งเป็นลูกผู้น้องของพ่อท่านกล่ำ ( คุณแม่ท่านขุนพันธ์ เป็นน้องโยมแม่ของพ่อท่านกล่ำ ) มาช่วยในการสร้างวัตถุมงคลเพราะท่านทรงความรู้เรื่องนี้อย่างหาตัวจับยากในหมู่ฆราวาส และด้วยความเกี่ยวพันธุ์กับพ่อท่านกล่ำจึงได้นำราหู 8 ทิศมาเป็นหลัก และเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุมงคลของหลักเมือง ซึงสามารถสรุปได้ว่าท่านคิดและสร้างรูปแบบนี้เพื่อศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะ เพราะหลังจากนั้น พ่อท่านกล่ำก็ไม่ได้สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบนี้อีกเลย ถึงแม้ว่ารูปแบบอันนี้จะเป็นรูปแบบที่กล่าวกันว่าเป็นดวงตราแผ่นดินของอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งก็หมายความว่าองค์ท่านพ่อท่านได้คิดค้นสร้างมาก่อน แต่ก็หายสาบสูญไม่มีใครรู้จักและเห็นมาก่อนหน้านี้ จึงต้องรอให้คนที่มีความรู้ระดับสูงในเรื่องไสยศาสตร์สร้างขึ้นมาให้เป็นตัวอย่าง
เกือบลืมไปครับ ยังมีผู้มีความรู้และมีความเก่งในเรื่องไสยศาสตร์ที่เป็นฆราวาส อีกท่านหนึ่งคือ หมอจุก

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 4
จากรายละเอียดที่กล่าวมาทั้ง 3 ตอน แสดงให้เห็นว่าพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู เป็นผู้ทรงภูมิปัญญาในวิทยาการด้านไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ชั้นสูง ทำให้สามารถสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับวัตถุมงคลได้ตามที่ต้องการ ไม่เฉพาะผ้ายันต์ราหูแปดทิศเท่านั้น ท่านยังได้ทำผ้ายันต์กันหนู ผ้ายันต์กันปู และลูกอม ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านคิดสร้างตำราขึ้นเอง เพื่อให้ชาวบ้านนำไปใช้ป้องกันพืชพันธ์ธัญญาหารที่ได้ลงทุนลงแรงเอาไว้ และป้องกันตัวโดยไม่ต้องลงทุนใช้เงินใช้ทองแต่อย่างใด
ด้วยระดับสติปัญญาและพลังจิตของท่านเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ไม่ว่าท่านจะสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นไหน ย่อมทรงพลังความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม เรื่องนี้สามารถประจักษ์ได้ด้วยประสบการณ์ ซึ่งของท่านก็มีมากมายหลายรุ่นจากที่ผมได้รับฟังจากโกจ๊องและคุณแม็ค มีทั้งจากเหตุการณ์จริงและจากการลอง เพื่อรวบรัดตัดความผมขอยกตัวอย่างสั้น ๆนะครับ เอาแค่เหตุการณ์จริงก็แล้วกัน เพียงแค่ลูกอมเม็ดเล็ก ๆ เม็ดเดียว สามารถรอดชีวิตจาก เอ็ม 16 และอาก้านับร้อยๆ นัด ถูกหัว 1 นัด ถูกกลางหลัง 1 นัด แต่ไม่เข้า อีกกรณีก็คือเรื่องเหรียญรุ่นแรกของคุณแม็คเองที่โดนยิงด้วยลูกซองถึง 2 นัด ในระยะประชิด แต่ลูกปืนซึ่งมาเป็นกลุ่มกลับแยกตัวออกอ้อมตัวคุณแม็คไปถูกรั้วสังกะสีด้านหลัง นอกจากนี้ก็มีป้าคนหนึ่งแขวนเหรียญรุ่นแรกถูกรถชนอย่างจัง ๆ จนตัวกระเด็นลอยขึ้น พอตกลงมาก็ลุกขึ้นเดินเฉยเลย
ผมขอมาวิเคราะห์ถึงประสบการณ์ดังกล่าว เอาที่ลูกอมก่อนครับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่าอาวุธสงครามอย่างปืนเอ็ม 16 และปืนอาก้านั้นมีอานุภาพความรุนแรงในการทำลายล้างสูง ถึงแม้ว่าถูกยิงแล้วไม่เข้า แต่กระดูกก็ต้องแตกหัก แต่คนที่โดนคนนี้ไม่เป็นอะไรเลยกระดูกหลังก็ไม่หัก กะโหลกก็ไม่ร้าว สมกับคำกล่าวของพ่อท่านกล่ำที่บอกกับโกจ๊องว่าเก็บไว้ให้ดี อันนี้คงถึงตับ ส่วนรายคุณแม็คที่กระสุนวิ่งอ้อมตัวออกไป แสดงให้เห็นถึงพลังความแรงของวัตถุมงคล เรียกว่าถ้ามองเห็นก็เหมือนกับการใช้กำลังภายในขั้นสูงเลย สำหรับรายของคุณป้านั้น วัตถุมงคลส่งคุณป้าให้ลอยขึ้นไปแบบกายกรรมถึงได้ตกลงมาแล้วไม่เป็นอะไร
ที่ผมนำมาพิจารณาให้เห็นก็เพื่อจะเรียนว่า วัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำนั้น มีประสบการณ์แบบเหนือชั้น คือรอดแบบเหลือเชื่อไม่เป็นอะไรเลย ส่วนบางอย่างนั้นรอดเหมือนกัน แต่รอดแบบสะบักสะบอม จะมากน้อยขึ้นอยู่กับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้น ๆ
ด้วยคุณวิเศษแห่งวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำที่แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์จากประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งวัตรปฏิบัติและความเชี่ยวชาญในด้านไสยศาสตร์ ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นของดีที่น่าสะสมและเก็บไว้ใช้ทั้งตัวเองและลูกหลาน เพียงแค่องค์เดียวรุ่นใดก็ได้ ก็สามารถคุ้มครองป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี มีความเจริญในอาชีพและโภคทรัพย์ นอกจากนี้ยังเป็นวัตถุมงคลที่เล่นแล้วจบ เพราะสร้างเพื่อแจกโดยวัด สร้างไม่มากรุ่นแต่ละรุ่นจำนวนไม่มาก
มีข้อน่าสังเกตว่าคนท้องถิ่นอาจจะมองข้ามวัตถุมงคลของท่านไป พระของ ท่านจึงมีค่านิยมไม่สูงมากเมื่อเทียบกับของพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน ยกตัวอย่างเหรียญรุ่นแรกของท่านมีราคาน้อยกว่าเหรียญของเกจิอาจารย์ที่สร้างในเวลาไล่ ๆ กันที่มีราคาขึ้นไปหลายหมื่นจนถึงแสน ทั้ง ๆ ที่พระท่านมีประสบการณ์มากมายหลายครั้งไม่แพ้พระเกจิอาจารย์องค์ใด เผลอ ๆ ก็อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้มองในอีกด้านหนึ่งก็เป็นผลดีกับผู้มีเบี้ยน้อยที่สามารถจะหาของดีที่ไม่ด้อยกว่าใครในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ไว้ใช้ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากกล่าวถึงคือ สมัยก่อนพวกเราเก็บสะสมพระของเกจิอาจารย์ด้วยการเสาะหาอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลังมีอิทธิฤทธิ์ที่ประสพด้วยตัวเองและเล่าขานโดยผู้ที่เชื่อถือได้ รวมทั้งมีประสบการณ์ที่เปรียบเสมือนใบรับรองคุณภาพ แต่ปัจจุบันพระที่สร้างออกมาและปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมเทียบเท่าพระเกจิอาจารย์ในยุคก่อน ๆ วัตถุมงคลที่ออกมาก็ยังไม่มีประสบการณ์ แต่ราคากลับแพงกว่าพระดีๆอย่างของพ่อท่านกล่ำ นอกจากนี้ยังสร้างกันอย่างเยอะแยะมากมาย บางรุ่นของพระเกจิอาจารย์บางองค์ยังมากกว่าพระทุกรุ่นของพ่อท่านกล่ำรวมกันเสียอีก
เมื่อประมาณต้นปีที่แล้วได้คุยกับพรรคพวกคนหนึ่ง เขาชวนผมไปเก็บพระของพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่ง เขาบอกว่าดีนะพี่ของท่านราคาขึ้น แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้วเขาบอกว่าพระท่านมีร้อยกว่ารุ่นแล้วพี่ ผมเลยคำนวณให้เขาฟังว่า ตีเสียว่าโดยเฉลี่ยขั้นต่ำรุ่นหนึ่งก็มี 20,000 องค์ ถ้าร้อยกว่ารุ่น ตีกลาง ๆ เอาเป็นว่า 150 รุ่น พระของท่านก็มีประมาณ 3 ล้านองค์ ผมสงสัยว่าพวกคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อกัน แค่คิดว่าองค์ละ 150 บาท ทั้งหมดก็เป็นเงิน 450 ล้านบาทแล้ว โอ้ ! คนในวงการพระนี่รวยจริง ๆ นี่แค่พระเกจิองค์เดียวนะเนี่ย
สุดท้ายนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณโกจ๊อง โคตรเศรษฐี ที่ได้มอบของวิเศษและข้อมูลของพ่อท่านกล่ำ และขอบคุณคุณแม็คที่เล่าประสบการณ์ให้ทราบ เพื่อนำมาเผยแพร่
ผู้เข้าชม
1190 ครั้ง
ราคา
5500
สถานะ
เปิดให้บูชา
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
boonyakiatเทพจิระBAINGERNโกหมูบี บุรีรัมย์lynn
ปลั๊ก ปทุมธานีเปียโนep8600เจริญสุขpoosit555มัญจาคีรี ud
แหลมร่มโพธิ์termboonvanglannaErawanchaithawatKumpang
สรณะพระเครื่องอมรทรัพย์พระเครื่องtatingtatingนะโม พระเครื่องponsrithongเพ็ญจันทร์
ชาวานิชชา วานิชต๊ะ อินทร์บุรีchaokohpratharn_pjocho

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1192 คน

เพิ่มข้อมูล

พระผงหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด ปี2534 พ่อท่านกล่ำ ถาวโร วัดศาลาบางปู




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระผงหลวงปู่ทวด พิมพ์พระรอด ปี2534 พ่อท่านกล่ำ ถาวโร วัดศาลาบางปู
รายละเอียด
หลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
เขียนโดย คุณ สุวัฒน์ เหมอังกูร
พ่อท่านกล่ำ ถาวโร พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงญาณสมาบัติชั้นสูงและมีวิชาอาคมขลัง เป็นผู้ให้กำเนิดยันต์ราหูแปดทิศที่ทรงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ อันแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความแตกฉานในวิทยาการด้านไสยศาสตร์ จนสามารถคิดค้นการสร้างวัตถุมงคลที่มีพลังระดับสูงไว้ให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้บูชา และยังเป็นต้นแบบให้กับวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชที่มีความโด่งดังไปทั่วประเทศ ในทางโลกการจะได้รับการยกย่องให้เป็นศาสตราจารย์ จะต้องเป็นผู้คิดค้นทฤษฎีใหม่ หรือการเขียนตำราวิชาการที่ยังไม่มีใครค้นคว้ามาก่อน พ่อท่านกล่ำจึงเปรียบเสมือนศาสตราจารย์ในทางโลก หรือปรมาจารย์ในเรื่องไสยเวทย์วิทยาคมในทางไสยศาสตร์
------------------------------------
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้ใหญ่ใจดีแห่งเมืองนครศรีธรรมราชได้อัญเชิญวัตถุมงคลทรงคุณค่าในอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์อันสูงยิ่ง ของพ่อท่านกล่ำ ถาวโร มาฝาก วัตถุมงคลที่ท่านนำมานั้น มีจำนวนมากมายหลายชิ้น เห็นแล้วถึงกับอึ้งในความใจดีมีเมตตาของท่าน ผมจึงขอกราบขอบพระคุณ โกจ๊อง โคตรเศรษฐี มา ณ โอกาสนี้
ที่มาของอภินันทนาการในครั้งนี้ เกิดจากการที่ผมได้ติดต่อโกจ๊อง เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติและวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำ เพื่อนำมาประกอบเรื่องราวของท่านที่ผมจะลงในเว็บราชันดำ ตามบทนำที่ผมลงให้ท่านอ่านข้างต้น การที่ผมจัดทำบทความเรื่องของพ่อท่านไม่ได้เกิดจากความคึกคะนอง แต่เกิดจากความศรัทธาในภูมิปัญญาของท่าน
โดยส่วนตัวแล้ว วัตถุมงคลที่สุดยอดในใจผมก็คือ องค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพ แต่ที่ผมสนใจและนำเรื่องของพ่อท่านกล่ำมาลงในเว็บราชันดำ ด้วยเหตุผล 2 ประการคือ
1. พ่อท่านกล่ำ มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชทั้งรูปแบบและการปลุกเสก
2. ถึงแม้ว่า สุดยอดวัตถุมงคลในใจของผมคือ วัตถุมงคลที่ปลุกเสกโดยท่านพ่อจตุคามรามเทพ แต่วิสัยของคนที่ชอบในเรื่องของอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเห็นว่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อ หลวงปู่องค์ไหนดี มีคำเล่าขานถึง ก็อดที่จะให้ความสนใจและเสาะหาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ผมมีความคิดว่า การมีวัตถุของเกจิอาจารย์หลายองค์ หลายรุ่น เปรียบเสมือนกับการที่เราเป็นช่างที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ หลากหลายไว้ใช้งาน ให้เหมาะกับแต่ละงาน เช่น มีสว่าน ไขควง สิ่ว กบ เลื่อย หลายขนาด สามารถใช้ได้เหมาะกับงานแต่ละอย่าง วัตถุมงคลก็เช่นเดียวกัน มีคุณสมบัติที่แตกต่างหลากหลายอานุภาพ
สิ่งที่ผมอยากกล่าวถึงคือเหตุผลในข้อ 1 เรื่องวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำได้ถูกนำมาเป็นแบบในการสร้างวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราช นั่นคือ ยันต์ราหูแปดทิศของพ่อท่านกล่ำ ที่ท่านเป็นผู้ออกแบบและสร้างขึ้นแจกในงานวันเกิดในปี 2526 รูปแบบของราหูแปดทิศ ได้นำมาเป็นแบบหลักในการสร้างผ้ายันต์ พระเนื้อผง และเหรียญ ของวัตถุมงคลหลักเมืองนครศรีธรรมราช โดยปรับเปลี่ยนรายละเอียดตรงกลางเป็นรูปแบบต่าง ๆ จุดสำคัญที่เป็นหลักในทางโหราศาสตร์คือ ราหูแปดทิศ ซึ่งกรณีนี้พ่อท่านกล่ำ จะต้องได้รับการยกย่องและให้เกียรติ ถึงแม้ว่าวัตถุมงคลที่ทำแล้วนำไปให้ท่านพ่อจตุคามรามเทพ ปลุกเสก จะมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่ ก็ควรจะบอกถึงที่มาของรูปแบบ ถ้าไม่บอกก็ควรจะข้ามไป แต่มีบางคนบอกกล่าวว่าคิดรูปแบบนี้ขึ้นเองเพื่อทำเป็นวัตถุมงคลให้ท่านพ่อปลุกเสก การโกงผลงานของผู้อื่นเป็นเรื่องน่าละอาย ไม่นับเป็นสัปปุรุษ จะเป็นได้ก็แค่โมฆะบุรุษ
การนำรูปแบบวัตถุมงคลต่าง ๆ มาสร้างวัตถุมงคลขึ้นใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มีการทำกันอยู่โดยทั่วไป ยันต์ อักขระ คาถา ที่ใช้ในวัตถุมงคลหลายรุ่นของหลักเมือง ฯ ก็ใช้แบบที่มีมาอยู่แล้ว รูปแบบราหูแปดทิศ ก็มีมาก่อน 2-3 ปี และมีหลักฐานว่าใครเป็นผู้คิดรูปแบบนี้ขึ้น ส่วนความศักดิ์สิทธิ์จะมากน้อยตามเคล็ดที่นำมาใช้นั้นขึ้นอยู่กับองค์ผู้ปลุกเสก

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 2
จากภาพเป็นวัตถุมงคลพ่อท่านกล่ำอีกส่วนหนึ่งที่โกจ๊องได้มอบให้ผม ผมขอนำเรื่องของพ่อท่านกล่ำบางตอนในเว็บราชันดำมาให้เพื่อน ๆ อ่านต่อ
คุณหมอสมสุข คงอุไร หรือที่คนในวงการเรียกท่านว่า อาหมอ ท่านเป็นผู้หนึ่งที่เดินทางไปกราบไหว้พระเกจิอาจารย์จำนวนมาก เพื่อแสวงหาอาจารย์ที่ทรงญาณสมาธิชั้นสูงและมีวิชาอาคมขลัง พระเกจิอาจารย์ที่ท่านได้ใกล้ชิดมากคือ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ภายหลังจากที่หลวงพ่อพรหมท่านมรณภาพ คุณหมอก็ได้ไปกราบไหว้พระเกจิอาจารย์อีกหลายองค์ หนึ่งในนั้นก็คือ พ่อท่านกล่ำ แห่งวัดศาลาบางปู คุณหมอมากราบไหว้พ่อท่านกล่ำหลายครั้งและได้บอกกับโกจ๊องว่า พ่อท่านกล่ำ มีความสามารถด้านวิชาอาคมเทียบเท่าหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค และ หลวงปู่หล้า หรือครูบาหล้า วัดป่าตึง รวมกัน ซึ่ง ครูบาหล้ามีชื่อเสียงเล่าขานกันว่า ท่านมีตาทิพย์ คุณหมอบอกว่า เวลาพ่อท่านกล่ำปลุกเสก ท่านจะลืมตาปลุกเสกเหมือนครูบาหล้า ถ้าไม่เก่งจริง จะทำให้ตาบอดได้ อีกเรื่องหนึ่งที่คุณหมอบอกคือ พ่อท่านกล่ำ ตาท่านเป็นสีฟ้าใสดุจน้ำทะเล ตามที่ผู้เขียนทราบลักษณะเช่นนี้แสดงว่าท่านทรงญาณสมาธิชั้นสูง มีความแก่กล้าในสมาธิจิตและวิชาอาคม ซึ่งจะปรากฏในพระเกจิอาจารย์บางองค์
สำหรับนัยน์ตาสีฟ้านี้ เราจะสามารถเห็นได้ตอนที่ท่านกำหนดจิตหรือต้องการให้เราเห็นเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนเคยประสบกับพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งมาก่อน ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนตั้งข้อสงสัย เมื่อได้ไปพบหลวงพ่อบางองค์ว่า ไม่เห็นตาท่านสีฟ้าตามที่เขาร่ำลือกัน ข้อสังเกตอีกประการหนึ่งคือ ตาสีฟ้าและฟ้าอมเขียว ที่ว่านั้นต้องมีความใส ถ้าเป็นสีฟ้าอมเทาและขุ่น นั่นเป็นลักษณะของการเข้าสู่วัยชรา
จากการที่คุณหมอสมสุข คงอุไร มากราบไหว้พ่อท่านกล่ำปีละ 1-2 ครั้งทุกปี เป็นเครื่องแสดงอย่างหนึ่งว่า พ่อท่านเป็นพระเกจิที่มีความสามารถในเรื่องพลังจิตสูงและมีวิชาอาคมขลัง ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่าคุณหมอท่านสามารถพิสูจน์ว่าพระเกจิองค์ใดเก่งหรือไม่ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาของท่านที่ได้เลือกไปสัมผัสกับพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ มานั้นเป็นที่ยอมรับว่าพระเกจิอาจารย์ดังกล่าวเก่งจริง
นอกจากนี้ คุณหมอยังได้นำผงที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จของหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค เป็นผงที่ลบโดยหลวงพ่อมามอบให้เป็นส่วนผสมในการสร้างพระผงของพ่อท่านกล่ำด้วย ซึ่งผงดังกล่าวตามที่ผู้เขียนทราบรายละเอียดมีประวัติต่อเนื่องมาคือ คุณหมอได้สอบถามหลวงพ่อพรหมตอนที่ท่านใกล้มรณภาพว่า เมื่อหลวงพ่อไม่อยู่แล้ว มีหลวงพ่อองค์ไหนที่น่าไปกราบไหว้ หลวงพ่อพรหมบอกว่า ให้ไปหาพระที่สร้างเหรียญมียันต์อิติปิโส 8 ทิศอยู่ด้านหลัง ภายหลังจากที่หลวงพ่อพรหมมรณภาพในวันที่ 30 มกราคม 2518 คุณหมอจึงสืบหาตามหาพระอาจารย์ตามที่หลวงพ่อพรหมท่านบอก จนกระทั่งมาพบเหรียญรุ่นแรกของครูบาชุ่ม วัดวังมุย จังหวัดลำพูน ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิชัย และเป็นที่ศรัทธายกย่องจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ว่า ท่านสามารถเข้านิโรธสมาบัติได้ทุกอิริยาบท คุณหมอจึงได้สร้างพระสมเด็จรุ่นปัจเจกธรรมถวายครูบาชุ่ม โดยผสมผงของหลวงพ่อพรหมไปด้วย ส่วนที่เหลือจึงนำมาผสมเนื้อพระให้ลูกศิษย์พ่อท่านกล่ำพืมพ์พระปิดตาเนื้อผงพิมพ์ลอยองค์ พิมพ์หลังเต่า และพระสังกัจจายน์ ผงดังกล่าวมีชื่อว่า ผง 5 มหาเมตตา
----------------------------------------------------
ขอมาคุยต่อครับ
กลับมาที่ยันต์ราหูครับ โกจ๊องบอกกับผมว่า ได้ถามพ่อท่านกล่ำว่า ทำไมพ่อท่านถึงทำราหูล่ะ ผมเห็นแล้วรู้สึกกลัว พ่อท่านกล่ำบอกว่าต่อไปเขาก็ใช้ราหูเพ จ๊องเอ๊ย ! ท่านพูดก่อนที่จะมีการสร้างหลักเมือง 2 – 3 ปี แสดงให้เห็นว่าท่านมองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน
สำหรับวิชาราหูของพ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อท่านพุ่มวัดจันพอ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาราหูทางภาคใต้ ร่วมสมัยกับพระเกจิที่สร้างราหูทางภาคเหนือ คือ ครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ จังหวัดลำปาง ส่วนภาคกลางคือ ราหูหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม
รูปแบบของราหูครูบานันตา จะทำเป็นราหูอมจันทร์ และราหูอมพระอาทิตย์ หรือที่เรียกกันว่า จันทรประภา และ สุริยประภา ส่วนราหูของหลวงพ่อน้อย จะเป็นแบบราหูอมจันทร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งการสร้างทั้ง 2 รูปแบบนี้ เป็นการสร้างโดยใช้คติตามตำนานของอินเดียที่สืบทอดกันมานับพันปี แต่ทางภาคใต้ภายหลังจากที่พ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดวิชาราหูจากพ่อท่านพุ่ม เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ท่านจึงใช้ความสามารถในวิทยาการด้านไสยศาสตร์ระดับสูงผสมผสานเคล็ดวิชาราหูเข้ากับวิชาโหราศาสตร์ที่ใช้หลักว่า ราหูคือเงาของดาวเคราะห์ 8 ดวง โดยมีโลกเป็นศูนย์กลาง อาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ที่ทำให้เกิดเงา ดาวนพเคราะห์ที่เหลือจำนวน 8 ดวง ยังได้ตัดดาวพลูโตออก เพราะอยู่ห่างไกลโลกมากและมีขนาดเล็กทำให้ไม่สามารถส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกได้จึงเหลือ 7 ดวง และนำดวงจันทร์เข้ามารวมด้วยเนื่องจากเป็นดาวที่ส่งอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกมากจึงรวมเป็น 8 ดวง ตามหลักวิชาของโหราศาสตร์ จึงทำให้ความหมายแห่งยันต์แบบนี้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องของดวงชะตา เรื่องนี้จึงไม่เกี่ยวกับราหูที่เราเห็นกันโดยทั่วไปตามรูปแบบในยุคก่อน ๆ ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเป็นรูปแบบของยันต์ที่มีความสวยงามอลังการ
มีคนไทยในสหรัฐอเมริกา ได้นำผ้ายันต์พังพระกาฬ ไปติดที่ร้านขายอาหารของตน มีลูกค้าฝรั่งคนหนึ่งเห็นเข้า จึงถามว่า นี่คือรูปภาพอะไร เขาตอบไปว่า Thai amulet หรือเครื่องรางของขลังของไทย ฝรั่งคนนั้นพูดกับเขาว่า นี่ไม่ใช่เป็นแค่ amulet เท่านั้น แต่เป็น art ด้วย

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 3
ในภาพก็ยังเป็นวัตถุมงคลพ่อท่านกล่ำที่โกจ๊องนำมามอบให้อีกเช่นกันครับ
และขอนำบทความบางตอนมาให้ท่านที่สนใจอ่านต่อ
มีผู้ไปถามหลวงพ่อเนียม วัดบางไทร ลูกศิษย์พ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ ว่าหลวงพ่อองค์ไหนที่เราควรไปกราบไหว้ หลวงพ่อเนียมท่านตอบว่า ก็พระครูวิสุทธิ ฯ ยังไง ซึ่งขณะนั้นท่านก็หมายถึง หลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
เมื่อพูดถึงการเอ่ยนามของท่านว่า พระครูวิสุทธิจารี ผู้เขียนจึงขอพูดถึงรายละเอียดเกี่ยวกับที่มาของสมณะศักดิ์นี้ เพราะเป็นชื่อที่มีความหมายยิ่ง เดิมชื่อนี้เป็นชื่อสมณะศักดิ์ของหลวงพ่อพุ่ม วัดจันพอ อาจารย์ของพ่อท่านกล่ำ เมื่อพ่อท่านพุ่มมรณภาพลงจึงตั้งพ่อท่านกล่ำขึ้นมาแทน การตั้งสมณะศักดิ์พระครูโดยใช้ชื่อว่าพระครูวิสุทธิจารี ไม่ใช่ตั้งได้โดยง่าย เพราะมีข้อกำหนดหลายประการคือ พระองค์นั้นต้องบวชตั้งแต่ก่อนอายุ 13 ปี และบวชอย่างต่อเนื่อง ต้องมีความรู้ในภาษาบาลีอย่างแตกฉาน สามารถแปลเป็นภาษาไทยได้อย่างสละสลวย ข้อสุดท้ายคือ ไม่เคยได้รับสมณะศักดิ์พระครูในชื่ออื่นมาก่อน ด้วยข้อกำหนดดังกล่าว เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว ชื่อสมณะศักดิ์นี้จึงว่างเว้นไปนานหลายปีกว่าจะได้องค์ใหม่ขึ้นแทน และที่ผู้เขียนกล่าวว่ามีความหมายยิ่ง ต้องไปพิจารณาที่คำแปล
วิสุทธิ หมายความว่า บริสุทธิ์
จารี หมายความว่า ผู้ประพฤติ
แปลอย่างตรงไปตรงมาก็คือ ผู้ประพฤติที่บริสุทธิ์ เป็นการยกย่องและสื่อความหมายว่า ท่านมีวัตรปฏิบัติที่บริสุทธิ์ ทั้งในทางโลกและทางธรรม มีความเคร่งครัดในศีล ซึ่งการจะปฏิบัติเช่นนี้ได้ตั้งแต่เด็กตลอดจนสิ้นอายุขัย ต้องเป็นผู้ที่ละวางกิเลสได้มากจนถึงหมดสิ้นซึ่งกิเลส
ท่านเป็นบรรพชิตที่มีญาณสมาธิขั้นสูง มีพลังจิตเข้มขลัง แต่ประพฤติปฏิบัติตนอย่างเงียบ ๆ ไม่คุยโม้โอ้อวด นอบน้อมถ่อมตน สมดังคำที่เจ้าคุณนร ฯ วัดเทพศิรินทร์ จะบอกกับลูกศิษย์เสมอว่า ของจริงนิ่งเป็นใบ้ หรือดังคำกล่าวของยาขอบในเรื่องผู้ชนะสิบทิศว่า เปรียบเสมือนรวงข้าวในนาที่มีเนื้อข้าวอยู่เต็มในเมล็ด รวงจึงโน้มต่ำลง ส่วนรวงข้าวที่เมล็ดฝ่อจะชูตั้งขึ้น
นอกจากนี้ ท่านยังเป็นพระที่มีความเมตตาสูง ช่วยเหลือชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยาก มีปัญหาในเรื่องการประกอบอาชีพ ท่านมีวัตรปฏิบัติที่เรียบง่ายเหมือนชาวบ้านทั่วไป โกจ๊องแนะนำท่านว่าให้เอาโทรทัศน์ขาวดำมาดูสักเครื่อง ท่านบอกว่าชาวบ้านที่ท่านไปบิณฑบาตยังไม่มีเลย ท่านจะมีได้อย่างไร
------------------------------------------------

ขอมาคุยต่อครับ
กลับมาที่เรื่องพระราหูอีกครั้งครับ สิ่งที่อยากให้ทุกท่านพิจารณาคือ พ่อท่านกล่ำได้รับการถ่ายทอดวิชาราหูจากพ่อท่านพุ่ม พระอาจารย์ของท่านมาเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี ท่านก็ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลในรูปพระราหูเลย จนกระทั่งในปี พ.ศ.2526 ท่านจึงได้ทำผ้ายันต์เกี่ยวกับราหูที่ไม่ใช่รูปแบบเดิม แต่ท่านได้ใช้ความรู้ระดับสูงในวิชาไสยศาสตร์และโหราศาสตร์มาผสมผสานให้ทรงพลังความศักดิ์สิทธิ์ในรูปราหู 8 ทิศ และรูปแบบนี้ได้นำไปใช้เป็นหลักในวัตถุมงคลของหลักเมืองนครศรีธรรมราชทุกรุ่น
เรื่องนี้ผมเห็นว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการสร้างหลักเมือง ที่ถูกจัดสรรโดยองค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพ ท่านต้องลงมาสร้างในขณะที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ พร้อม ตั้งแต่คนดำเนินการ ช่างฝีมือต่าง ๆ ผู้ที่มีความรอบรู้ในการสร้างวัตถุมงคล อย่างเช่น งานช่างก็มีอาจารย์มีชัย อาจารย์ราไว อาจารย์มนตรี อาจารย์เปี๊ยก ส่วนงานสร้างวัตถุมงคลซึ่งเป็นงานพิเศษเฉพาะไปอีกแบบหนึ่ง ก็ต้องไปเชิญท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งเป็นลูกผู้น้องของพ่อท่านกล่ำ ( คุณแม่ท่านขุนพันธ์ เป็นน้องโยมแม่ของพ่อท่านกล่ำ ) มาช่วยในการสร้างวัตถุมงคลเพราะท่านทรงความรู้เรื่องนี้อย่างหาตัวจับยากในหมู่ฆราวาส และด้วยความเกี่ยวพันธุ์กับพ่อท่านกล่ำจึงได้นำราหู 8 ทิศมาเป็นหลัก และเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุมงคลของหลักเมือง ซึงสามารถสรุปได้ว่าท่านคิดและสร้างรูปแบบนี้เพื่อศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชโดยเฉพาะ เพราะหลังจากนั้น พ่อท่านกล่ำก็ไม่ได้สร้างวัตถุมงคลในรูปแบบนี้อีกเลย ถึงแม้ว่ารูปแบบอันนี้จะเป็นรูปแบบที่กล่าวกันว่าเป็นดวงตราแผ่นดินของอาณาจักรศรีวิชัย ซึ่งก็หมายความว่าองค์ท่านพ่อท่านได้คิดค้นสร้างมาก่อน แต่ก็หายสาบสูญไม่มีใครรู้จักและเห็นมาก่อนหน้านี้ จึงต้องรอให้คนที่มีความรู้ระดับสูงในเรื่องไสยศาสตร์สร้างขึ้นมาให้เป็นตัวอย่าง
เกือบลืมไปครับ ยังมีผู้มีความรู้และมีความเก่งในเรื่องไสยศาสตร์ที่เป็นฆราวาส อีกท่านหนึ่งคือ หมอจุก

พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู ตอน 4
จากรายละเอียดที่กล่าวมาทั้ง 3 ตอน แสดงให้เห็นว่าพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู เป็นผู้ทรงภูมิปัญญาในวิทยาการด้านไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ชั้นสูง ทำให้สามารถสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับวัตถุมงคลได้ตามที่ต้องการ ไม่เฉพาะผ้ายันต์ราหูแปดทิศเท่านั้น ท่านยังได้ทำผ้ายันต์กันหนู ผ้ายันต์กันปู และลูกอม ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านคิดสร้างตำราขึ้นเอง เพื่อให้ชาวบ้านนำไปใช้ป้องกันพืชพันธ์ธัญญาหารที่ได้ลงทุนลงแรงเอาไว้ และป้องกันตัวโดยไม่ต้องลงทุนใช้เงินใช้ทองแต่อย่างใด
ด้วยระดับสติปัญญาและพลังจิตของท่านเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ไม่ว่าท่านจะสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นไหน ย่อมทรงพลังความศักดิ์สิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยม เรื่องนี้สามารถประจักษ์ได้ด้วยประสบการณ์ ซึ่งของท่านก็มีมากมายหลายรุ่นจากที่ผมได้รับฟังจากโกจ๊องและคุณแม็ค มีทั้งจากเหตุการณ์จริงและจากการลอง เพื่อรวบรัดตัดความผมขอยกตัวอย่างสั้น ๆนะครับ เอาแค่เหตุการณ์จริงก็แล้วกัน เพียงแค่ลูกอมเม็ดเล็ก ๆ เม็ดเดียว สามารถรอดชีวิตจาก เอ็ม 16 และอาก้านับร้อยๆ นัด ถูกหัว 1 นัด ถูกกลางหลัง 1 นัด แต่ไม่เข้า อีกกรณีก็คือเรื่องเหรียญรุ่นแรกของคุณแม็คเองที่โดนยิงด้วยลูกซองถึง 2 นัด ในระยะประชิด แต่ลูกปืนซึ่งมาเป็นกลุ่มกลับแยกตัวออกอ้อมตัวคุณแม็คไปถูกรั้วสังกะสีด้านหลัง นอกจากนี้ก็มีป้าคนหนึ่งแขวนเหรียญรุ่นแรกถูกรถชนอย่างจัง ๆ จนตัวกระเด็นลอยขึ้น พอตกลงมาก็ลุกขึ้นเดินเฉยเลย
ผมขอมาวิเคราะห์ถึงประสบการณ์ดังกล่าว เอาที่ลูกอมก่อนครับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่าอาวุธสงครามอย่างปืนเอ็ม 16 และปืนอาก้านั้นมีอานุภาพความรุนแรงในการทำลายล้างสูง ถึงแม้ว่าถูกยิงแล้วไม่เข้า แต่กระดูกก็ต้องแตกหัก แต่คนที่โดนคนนี้ไม่เป็นอะไรเลยกระดูกหลังก็ไม่หัก กะโหลกก็ไม่ร้าว สมกับคำกล่าวของพ่อท่านกล่ำที่บอกกับโกจ๊องว่าเก็บไว้ให้ดี อันนี้คงถึงตับ ส่วนรายคุณแม็คที่กระสุนวิ่งอ้อมตัวออกไป แสดงให้เห็นถึงพลังความแรงของวัตถุมงคล เรียกว่าถ้ามองเห็นก็เหมือนกับการใช้กำลังภายในขั้นสูงเลย สำหรับรายของคุณป้านั้น วัตถุมงคลส่งคุณป้าให้ลอยขึ้นไปแบบกายกรรมถึงได้ตกลงมาแล้วไม่เป็นอะไร
ที่ผมนำมาพิจารณาให้เห็นก็เพื่อจะเรียนว่า วัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำนั้น มีประสบการณ์แบบเหนือชั้น คือรอดแบบเหลือเชื่อไม่เป็นอะไรเลย ส่วนบางอย่างนั้นรอดเหมือนกัน แต่รอดแบบสะบักสะบอม จะมากน้อยขึ้นอยู่กับอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลนั้น ๆ
ด้วยคุณวิเศษแห่งวัตถุมงคลของพ่อท่านกล่ำที่แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์จากประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งวัตรปฏิบัติและความเชี่ยวชาญในด้านไสยศาสตร์ ทำให้วัตถุมงคลของท่านเป็นของดีที่น่าสะสมและเก็บไว้ใช้ทั้งตัวเองและลูกหลาน เพียงแค่องค์เดียวรุ่นใดก็ได้ ก็สามารถคุ้มครองป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี มีความเจริญในอาชีพและโภคทรัพย์ นอกจากนี้ยังเป็นวัตถุมงคลที่เล่นแล้วจบ เพราะสร้างเพื่อแจกโดยวัด สร้างไม่มากรุ่นแต่ละรุ่นจำนวนไม่มาก
มีข้อน่าสังเกตว่าคนท้องถิ่นอาจจะมองข้ามวัตถุมงคลของท่านไป พระของ ท่านจึงมีค่านิยมไม่สูงมากเมื่อเทียบกับของพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน ยกตัวอย่างเหรียญรุ่นแรกของท่านมีราคาน้อยกว่าเหรียญของเกจิอาจารย์ที่สร้างในเวลาไล่ ๆ กันที่มีราคาขึ้นไปหลายหมื่นจนถึงแสน ทั้ง ๆ ที่พระท่านมีประสบการณ์มากมายหลายครั้งไม่แพ้พระเกจิอาจารย์องค์ใด เผลอ ๆ ก็อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เรื่องนี้มองในอีกด้านหนึ่งก็เป็นผลดีกับผู้มีเบี้ยน้อยที่สามารถจะหาของดีที่ไม่ด้อยกว่าใครในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ไว้ใช้ได้
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากกล่าวถึงคือ สมัยก่อนพวกเราเก็บสะสมพระของเกจิอาจารย์ด้วยการเสาะหาอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลังมีอิทธิฤทธิ์ที่ประสพด้วยตัวเองและเล่าขานโดยผู้ที่เชื่อถือได้ รวมทั้งมีประสบการณ์ที่เปรียบเสมือนใบรับรองคุณภาพ แต่ปัจจุบันพระที่สร้างออกมาและปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมเทียบเท่าพระเกจิอาจารย์ในยุคก่อน ๆ วัตถุมงคลที่ออกมาก็ยังไม่มีประสบการณ์ แต่ราคากลับแพงกว่าพระดีๆอย่างของพ่อท่านกล่ำ นอกจากนี้ยังสร้างกันอย่างเยอะแยะมากมาย บางรุ่นของพระเกจิอาจารย์บางองค์ยังมากกว่าพระทุกรุ่นของพ่อท่านกล่ำรวมกันเสียอีก
เมื่อประมาณต้นปีที่แล้วได้คุยกับพรรคพวกคนหนึ่ง เขาชวนผมไปเก็บพระของพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่ง เขาบอกว่าดีนะพี่ของท่านราคาขึ้น แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้วเขาบอกว่าพระท่านมีร้อยกว่ารุ่นแล้วพี่ ผมเลยคำนวณให้เขาฟังว่า ตีเสียว่าโดยเฉลี่ยขั้นต่ำรุ่นหนึ่งก็มี 20,000 องค์ ถ้าร้อยกว่ารุ่น ตีกลาง ๆ เอาเป็นว่า 150 รุ่น พระของท่านก็มีประมาณ 3 ล้านองค์ ผมสงสัยว่าพวกคุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อกัน แค่คิดว่าองค์ละ 150 บาท ทั้งหมดก็เป็นเงิน 450 ล้านบาทแล้ว โอ้ ! คนในวงการพระนี่รวยจริง ๆ นี่แค่พระเกจิองค์เดียวนะเนี่ย
สุดท้ายนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณโกจ๊อง โคตรเศรษฐี ที่ได้มอบของวิเศษและข้อมูลของพ่อท่านกล่ำ และขอบคุณคุณแม็คที่เล่าประสบการณ์ให้ทราบ เพื่อนำมาเผยแพร่
ราคาปัจจุบัน
5500
จำนวนผู้เข้าชม
1191 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
URL
เบอร์โทรศัพท์
0910162844
ID LINE
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี